“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอย่างผันผวนระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ทั้งนี้เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณ 3 สัปดาห์ที่ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงแรกท่ามกลางทิศทางที่อ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียและเงินหยวน หลังจากธนาคารกลางจีนเพิ่มการผ่อนคลายทางการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ลงเพื่อบรรเทาแรงกดดันในตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจจีนในภาพรวม
นอกจากนี้เงินดอลลาร์ ขยับขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งอาจจะมากกว่า 0.50% ในการประชุมเดือน ก.ย.
เงินบาทแข็งค่าช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ หลังข้อมูล PMI เบื้องต้นสำหรับเดือน ส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ค. ของสหรัฐ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด กดดันเงินดอลลาร์ ให้อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Holeคำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อต pg
ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ส.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 9,349 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตร 6,355 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 755 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 5,600 ล้านบาท)
สัปดาห์ถัดไป (29 ส.ค.-2 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 35.50-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติ และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือน ก.ค. ของไทย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และ PMI/ISM ภาคการผลิตเดือน ส.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน ก.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและอัตราเงินเฟ้อ (เบื้องต้น) เดือน ส.ค. ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน ส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน